เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 นางสาวนิธิวดี มานิตกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้เข้าร่วมงานสัมมนาสตรีไทยภาคพื้นยุโรป ครั้งที่ 9 ณ กรุงออสโล โดยมีผู้แทนสมาคมสตรีไทยจากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคยุโรป เข้าร่วมกว่า 100 คน โดยได้รับเกียรติจากนายมังกร ประทุมแก้ว อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นาง Juliane Ofstad รองนายกเทศมนตรีกรุงออสโล นาย Daniel Tran Huynh ผู้แทนสภากรุงออสโล ซึ่งเดินทางเข้าร่วมงานด้วย

 

งานสัมมนาสตรีไทยภาคพื้นยุโรป เป็นการจัดขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้สมาคมสตรีไทยในประเทศต่าง ๆ ได้พบปะ เรียนรู้ และแลกเปลี่ยนการดำเนินงานของกลุ่มสตรีไทยในประเทศที่ตั้งอยู่ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเครือข่ายสตรี โดยการสัมมนาในปี 2568 ชมรมดนตรีและนาฏศิลป์ไทยในนอร์เวย์ และสมาคมสตรีไทยในนอร์เวย์ ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว โดยสถานเอกอัครราชทูตและกรมการกงสุลมีส่วนสนับสนุนงบประมาณในการจัดงานดังกล่าวด้วย

 

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้กล่าวเปิดงานสัมมนา โดยได้กล่าวย้อนหลังถึงวันสตรีสากลเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งเกิดขึ้นจากการเรียกร้องสิทธิการทำงานของสตรีจากในสหรัฐอเมริกา จนนำไปสู่การเรียกร้องสิทธิสตรีในภูมิภาคยุโรป และกลายเป็นค่านิยมสากลในปัจจุบัน โดยประเทศนอร์เวย์ได้ให้ความสำคัญกับสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียม ไม่ว่าจะมีเพศสภาพใดก็ตาม และเป็นค่านิยมที่ควรยึดถือ นอกจากนี้ ปัจจุบัน สตรีไทยในต่างประเทศต่างก็มีบทบาทสำคัญทั้งในฉากหน้า และฉากหลัง และถือเป็นทูตวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศที่แท้จริง

 

ภายในงานสัมมนา อธิบดีกรมการกงสุล ยังได้มีโอกาสในการอธิบายถึงบทบาทและการดำเนินงานของกรมการกงสุลในการดูแลคนไทยในต่างประเทศ ทั้งในด้านเอกสาร การให้ความช่วยเหลือคนไทย รวมทั้งการบริหารจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะการใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการบริหารและจัดการด้านกงสุล

ทั้งนี้ รองนายกเทศมนตรีกรุงออสโล และประธานคณะกรรมการด้านสุขภาพและกิจการสังคมของเทศบาลกรุงออสโล ได้กล่าวขอบคุณผู้จัดงานในการเชิญเทศบาลกรุงออสโลให้มีส่วนร่วมในงาน โดยกล่าวว่ากรุงออสโลมีนโยบายในการเป็นเมืองที่เปิดกว้าง ครอบคลุม และเปิดรับความเห็นต่างสังคม อีกทั้งกรุงออสโลยังส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชนทุกฝ่าย และเห็นว่าชุมชนไทยในนอร์เวย์มีความเข้มแข็งและสามัคคีเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่นาย Daniel Tran Huynh ผู้แทนสภากรุงออสโล ได้กล่าวขอบคุณผู้จัดงานและเน้นย้ำถึงการเปิดกว้างของสังคมนอร์เวย์ ที่เปิดรับพหุวัฒนธรรมในทุกชนชาติ และกล่าวยินดีต่อการจัดงานสัมมนาของสตรีไทยในภูมิภาคยุโรป

อนึ่ง ในงานสัมมนา ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากกลุ่มสตรีไทยในประเทศต่าง ๆ ได้กล่าวเสวนาและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในหัวข้อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของสตรีไทยในต่างประเทศ

 

ในช่วงเวลาค่ำของงานสัมมนา ยังได้มีการจัดงาน Gala Dinner เพื่อเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายในพื้นที่ระหว่างกัน โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงานดังกล่าวด้วย