ดิฉันรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรนอร์เวย์ และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณให้ดิฉันเข้าเฝ้าเพื่อกราบถวายบังคมลาก่อนเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่

 

ราชอาณาจักรนอร์เวย์ถือได้ว่ามีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของไทยเพราะคือดินแดนซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เยือนเป็นเวลาถึง ๑ เดือนเมื่อกว่า ๑๐๐ ปีที่แล้ว

แม้ว่าการมาประจำการในต่างประเทศของระดับเอกอัครราชทูตแต่ละวาระไม่มีกำหนดระยะเวลาชัดเจน ต่างจากข้าราชการระดับอื่น แต่ดิฉันมีความตั้งใจแน่วแน่ในการปฏิบัติงานในตำแหน่งนี้ให้สมบูรณ์แบบที่สุด ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงและในทุกๆ วันของการอยู่ในตำแหน่งนี้ ในการมุ่งมั่นส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรนอร์เวย์ที่แน่นแฟ้นยาวนานอยู่แล้วให้เจริญพัฒนายิ่งขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนเพื่อความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของประเทศทั้งสอง และส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางวัฒนธรรม soft power และการท่องเที่ยวไปมาหาสู่กัน

 

อนึ่ง โดยที่ในปี พ.ศ. ๒๕๖๗ และ ๒๕๖๘ มีความสำคัญยิ่ง โดยในปีนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนม์พรรษาครบ ๗ รอบ (๗๒ พรรษา) ส่วนในปีหน้า ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรนอร์เวย์จะครบ ๑๒๐ ปีและระหว่างไทยกับไอซ์แลนด์จะครบ ๕๐ ปี จึงเป็นโอกาสอันดียิ่งที่จะได้ร่วมเฉลิมฉลองปีที่ความสำคัญทั้ง ๒ วาระ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญของหน้าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศทั้ง ๒ โดยเฉพาะสำหรับกับราชอาณาจักรนอร์เวย์ที่พวกเราได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงปูแนวทางในการสานสัมพันธ์อย่างงดงาม ดิฉันจึงขอความร่วมมือจากชุมชนไทยทั้งในนอร์เวย์และในไอซ์แลนด์กรุณาให้ความร่วมมือ สนับสนุนสถานเอกอัครราชทูตโดยมีส่วนร่วมในการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ๒ เหตุการณ์นี้

 

ขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้า ทั้งนี้ ดิฉันจะพยายามพบปะพี่น้องชาวไทยทั้งในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และหวังว่าเราจะได้ทำงานอย่างมีความสุข เบิกบานเพื่อความสัมพันธ์ของไทยกับประเทศทั้งสองไปด้วยกัน

 

นิธิวดี มานิตกุล

เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล

๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗